วันพฤหัสบดีที่ 13 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2557

ผีดิบ

                1. เรื่องผีดิบเคาค์แดร็กคิวล่าอันโด่งดังเป็นเพียงนิยายที่แต่งขึ้นโดย บราม สโตกเกอร์เมื่อ100ปีมาแล้ว นิยายเรื่องนี้ยังคงเป็นที่นิยมอยู่จวบจนทุกวันนี้ ยังมีนิยายผีดิบอีกเรื่องหนึ่งซึ่งเกือบจะถูกลืมไปแล้ว นิยายเรื่องนี้แต่งขึ้นในปีค.ศ.1847 ชื่อวาร์นี่ จอมผีดิบ เป็นเรื่องเล่าเป็นตอนๆ ผีดิบวาร์นี่ตายโดยกระโดดลงไปในปล่องภูเขาไฟ
                2. ชายผู้หนึ่งชื่อแดร็กคิวล่า อาศัยอยู่ในยุโรปตะวันออก เขาไม่ได้เป็นผีดิบ แต่เป็นแม่ทัพใจเหี้ยมที่ข่มขู่ผู้คนในแถบนั้น ได้รับสมญาว่า วลาด แดร็กคิวล่า จอมเสียบ เนื่องมาจากปฏิบัติการอันโหดร้ายของเขา คือใช้ไม้ปลายแหลมเสียบอกเหล่าศัตรูและพวกนักโทษ
                                             


                        3. ค้างคาวผีดิบมีจริง แต่มันไม่ดูดเลือดมนุษย์ มันจะดูดเลือดวัวหรือม้าที่กำลังนอนหลับโดยเจาะเข้าที่ผิวหนังแล้วดูดเลียเลือดของเหยื่อเหมือนแมวเลียนม ฟันของมันแหลมคมมากจนเหยื่อไม่ทันรู้สึกตัว สารตัวหนึ่งที่อยู่ในน้ำลายของมันทำให้เลือดไหลออกมาเรื่อยๆไม่แข็งตัว เหยื่อจะไม่เสียชีวิตเพราะถูกดูดเลือด แต่ค้างคาวชนิดนี้อาจเป็นพาหะของโรค เช่น โรคกลัวน้ำ ซึ่งจะทำให้เหยื่อตายได้ในที่สุด

                                                                                                   

                4. ในลอนดอนมีสมาคมแดร็กคิวล่าอยู่แห่งหนึ่ง และอีกแห่งหนึ่งในแคลิฟอร์เนีย พวกสมาชิกจะพบปะกันปีละครั้งในวันที่8 พฤษจิกายน เพื่อเฉลิมฉลองวันเกิดของบราม สโตกเกอร์ ผู้เขียนเรื่องแดร็กคิวล่า ในงานนี้จะมีการเชิญผู้บรรยายมาพูดเรื่องตำนานผีดิบ
                5. เชื่อกันว่า ผีดิบไม่ถูกกับกระเทียมและเกลือ ซึ่งจะช่วยไล่ผีดิบไปได้ การโรยผงชอล์กและพรมน้ำมนต์ก็เชื่อว่าได้ผลเช่นกัน วิธีเดียวที่จะฆ่าผีดิบให้สิ้นซากก็คือใช้ไม้หรือเหล็กแหลมตอกทะลุหัวใจ ผีดิบจะกรีดร้องเสียงแหลมขณะดำเนินพิธีกรรมอยู่ ผีดิบบางตัวก็ร้องไห้ด้วย ถ้าต้องการให้แน่ใจว่าผีดิบตายจริงๆ เขาจะตัดศีรษะออกแล้วเอาร่างไปเผา
                6. เชื่อกันว่าเราสามารถป้องกันตัวเองจากผีดิบได้โดยการทำเครื่องหมายกางเขน ผีดิบและพระต่างก็ไม่ถูกกัน พวกพระแถบยุโรปตะวันออกกล่าวว่าคนที่มีจิตใจชั่วร้ายจะกลายเป็นผีดิบ ผีดิบไม่สามารถบังคับให้เหยื่อเข้าไปในรังของมันได้ นอกเสียจากว่าจะเชื้อเชิญให้เข้าไปโดยสมัครใจ
                7. ตำนานเรื่องผีดิบสืบสาวไปได้หลายพันปี ตั้งแต่สมัยกรีกโรมันและเทพนิยายของชาวฮีบรู แต่ศูนย์รวมที่ขึ้นชื่อที่สุดอยู่บริเวณทรานซิลเวเนียในโรมาเนีย ประเทศโรมาเนียอาศัยตำนานเรื่องผีดิบเป็นจุดขายของธุรกิจการท่องเที่ยว กล่าวคือ มีโรงแรมชื่อปราสาทแดร็กคิวล่า โรงแรมจะเปิดเทปเสียงหมาป่าหอนเมื่อมีแขกขับรถเข้ามาในบริเวณนั้น
                8. ตำนานบอกว่าผีดิบอาจเป็นชายหรือหญิงก็ได้ เหยื่อของผีดิบจะกลายเป็นผีดิบรายต่อไป กระนั้นเชื่อว่าถ้าได้กินดินจากหลุมฝังศพของผีดิบจะช่วยรักษาอาการได้
                9. ในศตวรรษที่17และ18 มีการขโมยขุดซากศพจากหลุมแล้วนำไปขายให้แพทย์เพื่อการศึกษา พวกขโมยทิ้งหลุมศพให้ว่างเปล่า ดังนั้นคนขี้ตื่นจึงพากันคิดว่าซากศพลุกจากหลุมเดินเองได้

                10. คนที่เชื่อเรื่องผีดิบอธิบายสภาวะการเป็นผีดิบไว้2แบบ แบบแรกบอกว่า ผีดิบคือวิญญาณชั่วร้ายที่เข้าสิงสู่อยู่ในซากศพ อีกแบบหนึ่งก็ว่า ผีดิบคือวิญญาณของคนตายที่ชั่วร้ายเสียจนไม่มีภพภูมิที่จะไปหลังความตาย จึงต้องย้อนกลับมาหาร่างเดิมเพื่อเป็นแหล่งพักพิง  
       

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น